[รีวิว] ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ หนังอีสานอินดี้ ที่จริงใจ และตาฮักขนาด

ผมตัดสินใจตีตั๋วไปชมภาพยนตร์อีสานอินดี้เรื่องนี้ “ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์” หลังกระแสฉายมาหนึ่งสัปดาห์แบบจำกัดพื้นที่ เน้นภาคอีสาน และผลตอบรับออกมาดีมากๆ (อ่าน: “ไทบ้านเดอะซีรีส์” หนังอีสานสุดปัง! ลุยภูมิภาคก่อนบุกทั่วประเทศ บทเรียนธุรกิจที่น่าศึกษา)

เรื่องน่าตกใจอย่างแรก เมื่อไม่ได้เตรียมตัวไปดู ก็เลยคิดว่าจะหาซื้อตั๋วก่อนหนังฉายไม่กี่นาทีแล้วเข้าโรงเลย ผลเหรอ? เต็มทุกที่นั่ง! ก็ต้องไปหารอบอื่นดูแทน เนื่องจากผมดูที่โคราช ซึ่งก็อยู่ในภาคอีสาน นี่จึงสะท้อนความนิยมได้พอสมควรของหนังเรื่องนี้เลย


ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ นิยามได้ว่าเป็นหนังวัยรุ่นพูดอีสาน เนื้อเรื่องพูดถึงตัวเอกคือ จาลอด หนุ่มผมม้าหน้าตาบ้านๆ คนซื่อ ที่เหงาเบื่อ เพื่อนสนิทสายเจ้าชู้อย่าง บักเซียง ก็เลยแนะนำให้เขาจีบผู้หญิงไปเรื่อยๆ ซัก 100 คน ด้วยหวังว่าต้องมีสักคนตกลงเป็นแฟน จนจาลอดเริ่มมาดูมีลุ้นกับสองสาว คือหมอปลาวาฬ กับครูแก้ว เรื่องรักวุ่นๆ ชุลมุนก็เลยเริ่มขึ้น

จะเห็นว่าเนื้อเรื่องนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน แต่องค์ประกอบที่ทำให้ใครเดินออกจากโรงก็ต้องมีความสุข เพราะจังหวะหนังมันตลกมากๆ นักแสดงทั้งหมดเป็นหน้าใหม่เราจึงไม่มีภาพจดจำใดๆ อีกทั้งการที่หนังพูดอีสานไม่ใช่ปัญหา เพราะมีซับภาษาไทยประกอบอยู่แล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด สาส์นในหนังที่ส่งออกมาและคนดูรับรู้ได้คือความจริงใจ หนังไม่ได้ประดิษฐ์ฉากทุ่งไม้ใบหญ้าชีวิตติดดินอีสานแบบอุดมคติ แต่เล่าเรื่องคนอยู่ชนบทแบบร่วมสมัย มีฉากประเภทนี้จำนวนมาก อย่างเช่น ป่อง ลูกผู้ใหญ่บ้าน อยากเปิดเซเว่นฯ ในหมู่บ้าน เทรดหุ้นในไอแพด, จาลอดนัดเดทสาวที่ KFC ในอำเภอ เช็กสเตตัสครูแก้วในเฟซบุ๊ค, ชาวบ้านฉลองทำนาด้วยการสั่งพิซซ่ามาทาน, น้องชายจาลอดติดเล่นเกมมือถือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ “จริง” และช่วยให้แม้แต่คนดูที่ไม่ใช่คนอีสาน พอจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

อีกสิ่งที่ชื่นชมคือทีมนักแสดง ถึงเป็นหน้าใหม่ทั้งหมด แต่ล้วนมีเสน่ห์ตามบทบาทให้คนดูหลงรักได้ไม่ยาก หนังมีหลายฉากที่ใช้วิธีถ่ายแบบ Long Take ซึ่งต้องใช้พลังนักแสดงเยอะ (โดยเฉพาะฉากเวียนเทียนนี่ เจ๋งเลย) แล้วก็ทำออกมาได้ดี แสดงให้เห็นถึงการแคสต์ที่เข้าขากันเป็นทีมอย่างดีนั่นเอง

ด้วยจังหวะเรื่องที่ดี หนังเน้นความตลกนำ พูดได้ว่ามีฉากตลกแบบน่าจดจำเยอะมาก (เช่นฉากรถไถนาระบบออโต้, ฉากไฟดับ) ส่วนสาระของหนังถูกนำเสนอแบบจริงใจ อย่าแปลกใจที่หนังเรื่องนี้เป็นกระแสแบบป่าล้อมเมือง โดยเฉพาะกระแสเริ่มที่ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นฉากหลังหลักของหนังเรื่องนี้ (รวมถึงบ้านเกิดผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ) หอคอยและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เลยได้ออกฉากนำเสนอเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดังประจำจังหวัดไปเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หนังมีฉากที่ตัดต่อมาโดดๆ อยู่พอสมควร เนื่องจากมีประเด็นหยิบย่อยในหนังอยู่มาก ซึ่งมาทราบทีหลังว่าโปรเจกต์นี้เดิมจะทำเป็นซีรี่ส์ 12 ตอนลงยูทูป (หนังถึงมีคำว่าเดอะซีรี่ส์) แต่พอหยั่งกระแสแล้วออกมาดีมาก จึงทำเป็นภาพยนตร์ฉายในโรงเก็บเงินเลยดีกว่า ผลคือหลายประเด็นก็ถูกตัดลดลงตามความยาวหนัง อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวล ความตลกที่ยิงมาต่อเนื่องในหนังก็ชดเชยเรื่องเหล่านี้ได้

สนุกและน่าจดจำจริงๆ